$num = 20;
if ( $num == 20 ) {
ผลการรันโปรแกรม
number is 20
ในภาษาซี ถ้าประโยคที่อยู่ถัดจาก เงื่อนไข if มีเพียงบรรทัดเดียว
คุณสามารถเขียนในลักษณะนี้ได้
สำหรับการเปรียบเทียบค่าที่เป็น String ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ดังตัวอย่างโปรแกรม if2.pl ต่อไปนี้
$name = "yoyo";
if ( $name eq "yoyo" ) {
ผลการรันโปรแกรม
hello , yoyo
Numbers | Strings | |
---|---|---|
$x เท่ากับ $y | $x == $y | $x eq $y |
$x ไม่เท่ากับ $y | $x != $y | $x ne $y |
$x มากกว่า $y | $x > $y | $x gt $y |
$x มากกว่าหรือเท่ากับ $y | $x >= $y | $x ge $y |
$x น้อยกว่า $y | $x < $y | $x lt $y |
$x น้อยกว่าหรือเท่ากับ $y | $x <= $y | $x le $y |
print "Enter your name : ";
$name = <STDIN>;
chop($name);
if ($name eq "yoyo"){
ผลการรันโปรแกรม
Enter your name : yoyo
hello , yoyo
แต่สำหรับการรับข้อมูลที่เป็นตัวเลขนั้น ไม่จำเป็นต้องตัดรหัส
\n ออกเหมือนกับการรับข้อความ
ลองพิจารณาตัวอย่างโปรแกรม if3.pl
$a = 10;
if ( ($a==20) || ($a==10) )
{
คราวนี้ ลองมาพิจารณาโปรแกรม if4.pl ต่อไปนี้
$a=50;
if ( ($a>=50) && ($a==50)){
ถ้า $a เป็น 60 เงื่อนไขแรกเท่านั้นที่เป็นจริง
แต่เงื่อนไขที่สองเป็นเท็จ เงื่อนไขเป็นจริงเพียงเงื่อนไขเดียว เพราะฉะนั้น
เงื่อนไข if จึงไม่แสดงข้อความ "that is true"..
$name = "yoyo";
if ( $name eq "yoyo" ) {
$name = "yooooo";
if ( $name eq "yoyo" ) {
$count = 0;
while ($count != 10){
คําสั่งวนลูปที่เราจะมาศึกษากัน มีดังนี้